ช่างแต่งหน้ารับปริญญา เลือกอย่างไรดีน้าา

ช่างแต่งหน้ารับปริญญา เลือกอย่างไรดีน้าา

 

จุดเริ่มต้นการแต่งหน้าจริงจังสำหรับสาวๆ หลายคนอาจเริ่มจากงานรับปริญญาของตัวเองนี่แหละหลายคนเลยไม่รู้จะเริ่มต้น หรือเตรียมตัวอย่างไรดี ยังงงๆ ว่าจะไปหาช่างแต่งหน้ารับปริญญาจากไหน แล้วแบบไหนถึงเรียกว่าดี

วันนี้ปลาจะมาไกด์แนวทางให้สำหรับสาวๆ แถมด้วยการดูแลตัวเองระหว่างวันที่แต่งหน้าให้ด้วย

แต่งหน้ารับปริญญา

เริ่มกันจากเมื่อสาวๆ รู้ตัวว่าชั้นจบแน่ ได้รับปริญญาแน่ๆแล้ว  ปลาแนะนำว่า…

 

1.เริ่มมองหาช่างแต่งหน้า  

หลายคนอาจบอกว่า กำหนดการยังไม่ออกเลยค่ะ เพ่ขา
คือพี่ก็อยากจะบอกน้องๆขาว่า ตอนนี้ช่างแต่งหน้ารับปริญญาเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกค่ะ
น้องเริ่มเร็วก็มีเวลามองหา และศึกษาสไตล์การแต่งหน้าของช่างได้เยอะ ไม่ต้องรีบต้องร้อน
การมองหาก็ไม่ได้ยาก ถามเอากับอากู๋ได้เลย แต่งหน้ารับปริญญา ช่างแต่งหน้ารับปริญญา อะไรทำนองนี้
ผลลัพธ์ยาวเหยียดให้น้องได้เข้าไปเลือกดู
ดูเยอะๆ ค่ะ ดูสไตล์การแต่งหน้าของช่างแต่ละคน ชอบสไตล์ของคนไหนก็จดไว้
ช่างแต่งหน้าแต่ละคนมีสไตล์การแต่งหน้าแตกต่างกัน เรียกว่าเป็นเหมือนลายเซ็นต์กันเลย
ไม่มีใครลอกเลียนใครกันได้ค่ะ อาจได้แรงบันดาลใจ ดูแล้วคล้ายกัน แต่ยังไงก็จะไม่เหมือน
น้องบางคนอาจงง ยังไงถึงเรียกสไตล์ ยกตัวอย่างง่ายๆ นะคะ
ช่างบางคนอาจแต่งหน้าเน้นความใสๆ เบาๆ เป็นธรรมชาติ
บางคนเน้นคมเข้ม คิ้วแท่ง ขนตาสะพรึง , บางคนอาจเน้นลุคส์ดูเกาหลี คือดูเงา วาว ดิวอี้ แก้มฉ่ำๆ อะไรงี้
ที่เห็นข้างบนคือตัวอย่างสไตล์ของช่าง จริงๆ ยังมีหลายสไตล์หลายแบบนะคะ
น้องๆ ก็ลองเลือกดูว่าตัวเองชอบแบบไหน สไตล์ไหน
จริงๆช่างแต่งหน้าก็จะคล้ายๆ ช่างภาพนั่นแหละค่ะ งานมีสไตล์เป็นของตัวเอง

 

2.สอบถามค่าบริการ

หลังจากเลือกช่างที่ถูกใจได้แล้ว ขั้นตอนต่อไป ลองสอบถามค่าบริการดูค่ะ
ช่างไม่ว่า ไม่ดุหรอกค่ะ ถามได้ ยังไม่จำเป็นต้องระบุวันแต่ง แค่บอกกับช่างว่ามาสอบถามค่าบริการไว้ก่อน
หลังจากทราบราคา น้องอาจเริ่มมองเห็นเลาๆล่ะว่า จะเลือกช่างคนไหนดี
แต่บอกสาวๆ ไว้ก่อนนะคะว่า อย่าเลือกช่างจากราคา ว่าเอาคนนี้แหละ ราคาถูกดี แต่สไตล์ช่างอาจไม่ตรงกับที่เราต้องการ
แล้วค่อยไปบอกให้ช่างแต่งตามที่เราชอบ ปลาบอกเลยนะคะ ยังไงก็จะไม่เหมือน
อย่างที่บอกข้างต้น ช่างทุกคนมีลายเซ็นต์เป็นของตัวเอง อาจได้แค่กลิ่นอายเบาๆ แต่ก็จะไม่ตรงซะทีเดียว
เพราะฉะนั้นลองหาช่างที่อยู่ตรงกลางระหว่างผลงานที่เราชอบ กับเรทราคาที่เรายอมรับได้
สาวๆ อาจเก็บข้อมูลช่างเผื่อๆไว้เยอะหน่อย เพื่อจะได้มาเป็นตัวเลือกได้
นี่แหละคือเหตุผลว่าทำไม พอรู้ตัวว่าจบแน่ให้เริ่มมองหาเก็บข้อมูลได้เลย

 

3.จองคิวช่างทันที ที่รู้กำหนดการ

และหลังจากเลือกคนที่ต้องการได้แล้ว ให้รีบจองคิวช่างทันที ที่รู้กำหนดการ
ย้ำว่า ทันทีที่รู้กำหนดการ ! หลายคนบอกรู้กำหนดการก่อนล่วงหน้าตั้ง 3-4 เดือน ไม่ต้องรีบก็ได้มั้ง รอใกล้ๆ ค่อยโทรไปจองคิว
ขอบอกว่าน้องอาจพลาดช่างที่ตัวเองต้องการค่ะ มาตัดสินใจโทรจองตอนใกล้ๆวัน อาจพบว่าช่างคิวเต็มไปเรียบร้อย
ยิ่งบางปี บาง ม. รับชนกันนี่ อย่าว่าแต่จะได้คิวช่างที่ตัวเองต้องการจริงๆเลยค่ะ
แค่หาช่างให้ได้ยังยากเลย แม้แต่ตัวช่างเองยังอยากแยกร่างเลยค่ะ พูดตรงๆ 5555

น้องบางคนอาจบอกว่า หนูเจอช่างที่หนูชอบแล้ว แต่ราคาสูงไปนิด แต่หนูอยากได้ช่างคนนี้จริงๆ จะทำอย่างไรดี
ปลาแนะนำอย่างนี้ค่ะ ลองสอบถามราคากรณีแต่งเป็นกลุ่มจากช่างคนนี้มาด้วย
เพราะเวลาน้องรวมกันมาเป็นกลุ่ม น้องจะได้เรทราคาพิเศษค่ะ ราคาอาจลงมาอยู่ในจุดที่น้องพอรับได้แล้ว
โดยส่วนใหญ่ก็กลุ่มละ 3 -5 คน โดยประมาณ (อันนี้ช่างแต่ละคนอาจมีเงื่อนไขการรับเป็นกลุ่มแตกต่างกัน ต้องลองสอบถามดูนะคะ)
ถ้าราคาเป็นที่พออกพอใจแล้ว ก็ไปชักชวนสมัครพรรคพวกได้เล้ย ทีนี้น้องก็จะได้แต่งกับช่างที่น้องชอบในราคาที่พอใจแล้วล่ะ

ครั้งหน้าจะมาแนะนำถึงวิธีการดูแลตัวเองระหว่างวันที่รับปริญญาให้นะคะ  รอติดตามกันได้เลยจ้า